ใครก็รู้ว่า “หัวใจ” ❤️ เปรียบเสมือนศูนย์กลางของร่างกายคนเรา แต่รู้หรือไม่? ว่าหลอดเลือดหัวใจก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าหากหลอดเลือดหัวใจที่เหมือนท่อน้ำนี้เริ่มไม่แข็งแรง แน่นอนว่า ‘โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ’ อาจกำลังถามหา!!
.
#โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ที่หลายคนอาจมองเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วกลับใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเกิดขึ้นจากการเกาะ หรือก่อตัวของคราบไขมันสะสมในผนังเส้นเลือดหัวใจหนาขึ้น จนทำให้เกิดการตีบ ส่งผลให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจชั้นใน ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอ เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ ซึ่งอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิต ถือเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่อันตรายและเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก รองจากโรคมะเร็ง
.
#สัญญาณอันตรายที่เตือนว่าคุณอาจเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
– รู้สึกเจ็บและแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก
– ปวดร้าวบริเวณแขน คอและไหล่
– คลื่นไส้ หน้ามืด ใจสั่น ในกรณีที่รุนแรงอาจหมดสติ
– เหนื่อยง่ายผิดปกติ เวลาที่ออกกำลังหรือต้องใช้แรงจำนวนมาก
– ความดันโลหิตต่ำแบบเฉียบพลัน
.
#ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ยิ่งเริ่มได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ได้แก่ การไม่สูบบุหรี่ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รสชาติหวานจัด เค็มจัด ควรหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 75 -150 นาทีต่อสัปดาห์ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด
.
#ค่ารักษา 🩺สำหรับโรคเกี่ยวกับหัวใจนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายจะแตกต่างไปตามวิธีการรักษาซึ่งขึ้นอยู่กับโรคและระดับความรุนแรงของโรคที่เป็น
– การทำบอลลูน 100,000 – 1,000,000 บาท
– ผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ 124,000 – 700,000 บาท
– ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ 18,000 – 436,000 บาท
– ผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจเอออร์ต้าโป่งพอง 110,000 – 768,000 บาท
(ราคาค่ารักษาโดยประมาณซึ่งอ้างอิงจากรพ.เอกชน อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง)
อย่าลืมหมั่นสังเกตตนเองและคนที่คุณรัก ว่ามีอาการดังที่กล่าวไปข้างต้นหรือไม่ เพราะโรคร้ายแรงนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด
ขอบคุณข้อมูล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
